สิ่งที่ต้องมุ่งเน้นในช่วงฤดูประกาศผลประกอบการปี 2024?

Adam Lienhard
Adam
Lienhard
สิ่งที่ต้องมุ่งเน้นในช่วงฤดูประกาศผลประกอบการปี 2024?

ฤดูประกาศผลประกอบการที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2024 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยจะเป็นช่วงที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธุรกิจ ในช่วงเวลานี้ บริษัทต่างๆ จะเผยแพร่รายงานผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาหุ้นของตน ฤดูประกาศผลประกอบการเริ่มต้นด้วยการเปิดเผยรายงานผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ๆ รวมถึงธนาคารขนาดใหญ่ เช่น JPMorgan Chase, Bank of America, Wells Fargo และ Citigroup

ประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัท

ประสิทธิภาพการขายและผลกำไรของบริษัทถือเป็นการพิจารณาที่สำคัญ หากบริษัทมียอดขายและผลกำไรเกินคาดการณ์ โดยทั่วไปจะถือว่ามีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ หากผู้บริหารของบริษัทเพิ่มการคาดการณ์ยอดขายและผลกำไรในอนาคต ก็ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด

อย่าลืมดูเทรนด์ของอุตสาหกรรม

นักวิเคราะห์คาดการณ์อัตราการเติบโตที่แตกต่างกันสำหรับภาคส่วนต่างๆ ตัวอย่างเช่น ภาคพลังงานมีเปอร์เซ็นต์ “ซื้อ” ของนักวิเคราะห์สูงสุดที่ 64% ตามมาด้วยบริการด้านการสื่อสารที่ 62% ภาคสินค้าอุปโภคบริโภคมีเปอร์เซ็นต์การจัดอันดับ “ซื้อ” ของนักวิเคราะห์ต่ำที่สุดเพียง 47%

พิจารณาอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย

Macro Trend เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลกระทบต่อรายได้ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสำหรับผู้บริโภคและบริษัทในสหรัฐฯ สูงขึ้น ทำให้เกิดแรงกดดันต่อการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อยังทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น บีบอัตรากำไรและส่งผลกระทบต่อรายได้

อัตราดอกเบี้ยในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อฤดูกาลประกาศผลประกอบการ การตัดสินใจของเฟดที่จะคงหรือเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่างๆ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลกำไรของบริษัทลดลง

ในปี 2024 เฟดคาดว่าจะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่เมื่อสิ้นสุดการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 31 มกราคม อย่างไรก็ตาม ตลาดในปัจจุบันนำหน้าผู้นำเฟดเล็กน้อยในการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย สรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจล่าสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 แสดงให้เห็นว่าการคาดการณ์ค่ามัธยฐานของเฟดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะสูงกว่า 4.5% ภายในเดือนธันวาคม 2024 ในเวลาเดียวกัน ตลาดซื้อขายล่วงหน้าตราสารหนี้คาดว่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงต่ำกว่า 4% ในเวลานั้น

ดังนั้น นักลงทุนจะต้องสังเกตท่าทีของเฟดและบรรยากาศทางเศรษฐกิจในวงกว้างในช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการอย่างรอบคอบ เพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน

ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ Q1 ปี 2024

นี่คือปฏิทินรายงานรายได้ที่คุณอาจสนใจ เทรดหุ้นของบริษัทเหล่านี้ได้ที่ Headway! เริ่มตอนนี้เลย →

วันที่และเวลาบริษัท
16/01Goldman Sachs (GS), Morgan Stanley (MS)
18/01Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSM)
19/01SLB (SLB)
23/013M Co (MMM), General Electric (GE), Johnson & Johnson (JNJ), Procter & Gamble (PG), Verizon Communications (VZ), Intuitive Surgical (ISRG), Netflix (NFLX), Visa Inc Class A (V)
24/01AT&T (T), International Business Machines (IBM), ServiceNow Inc (NOW), Tesla (TSLA)
25/01Blackstone (BX), Intel Corp (INTC)
26/01American Express (AXP)
30/01Amgen (AMGN), Caterpillar Inc (CAT), General Motors (GM), Pfizer (PFE), Advanced Micro Devices (AMD), Microsoft Corp (MSFT), Mondelez (MDLZ), Snap Inc A (SNAP)
31/01 Automatic Data Processing (ADP), Boeing (BA), Mastercard (MA), Novo Nordisk (NVO), Thermo Fisher Scientific (TMO), Qualcomm Inc (QCOM)
1/02 Ball Corp (BLL), Merck & Co (MRK), Starbucks Corp (SBUX), Takeda Pharmaceutical (TAK), Alphabet Inc C (GOOG), Alphabet Inc A (GOOGL), Amazon.com (AMZN), Apple Inc (AAPL), Gilead Sciences (GILD), Meta Platforms (META), MicroStrategy (MSTR)
2/02AbbVie (ABBV), Aon (AON), Bristol-Myers Squibb (BMY), Chevron (CVX), Exxon Mobil (XOM)
5/02The Estee Lauder Companies (EL), McDonald’s Corp (MCD), Pinterest (PINS)
6/02 Eli Lilly and Co (LLY), Spotify Technology SA (SPOT), Willis Towers Watson (WTW), Ford Motor Co (F)
7/02The Walt Disney Co (DIS)
8/02 Philip Morris International (PM), Illumina (ILMN), PayPal Holdings (PYPL)
9/02PepsiCo (PEP)
12/02Palantir Technologies (PLTR), Arista Networks (ANET)
13/02Coca-Cola (KO), Airbnb (ABNB)
14/02Barrick Gold (GOLD), CME Group (CME), Cisco Systems (CSCO), QuantumScape (QS)
15/02The Kraft Heinz Co (KHC), Applied Materials (AMAT)
16/02Deere & Co (DE)
20/02Medtronic (MDT), The Home Depot (HD), Walmart (WMT)
21/02Teladoc Health (TDOC)
22/02Keurig Dr Pepper (KDP), Modern (MRNA), Newmont (NEM)

ติดตามเราได้ที่ เทเลแกรม, อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที