กฎ 5 ข้อของการบริหารความเสี่ยงที่ทุกคนควรรู้

Adam Lienhard
Adam
Lienhard
กฎ 5 ข้อของการบริหารความเสี่ยงที่ทุกคนควรรู้

สำหรับนักเทรดบางราย การบริหารความเสี่ยงอาจดูเหมือนไม่จำเป็น ในความเป็นจริง เคล็ดลับการจัดการความเสี่ยงที่ดีบางประการก็สามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มาก ผู้เชี่ยวชาญจาก Headway จะแนะนำว่าหลักการพื้นฐานที่จะช่วยปรับปรุงแนวทางการเทรดของคุณและช่วยให้คุณเทรดในตลาดได้อย่างมีถี่ถ้วน

กฎข้อที่ 1 ใช้คำสั่ง Stop-Loss เสมอ

นี่เป็นหนึ่งในกฎหลักในการเทรด: “เทรดโดยมีการหยุดเสมอ” อันที่จริงแล้ว ในบรรดาคำสั่งทุกประเภท คำสั่ง Stop-Loss ถือเป็นคำสั่งที่สำคัญที่สุด

คำสั่ง Stop-Loss คือแนวป้องกันหลักของคุณ ไม่มีใครสามารถคาดเดาตลาดได้ตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะใช้ความพยายามในการวิเคราะห์ แต่ก็มีบางสิ่งที่อาจเกิดขึ้นซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวของราคาไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกับคุณ คุณจะเริ่มเผชิญกับการขาดทุนในทุกจุดที่ราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในตลาดที่มีความผันผวนสูง

คำสั่ง Stop-Loss จะปิดการเทรดก่อนที่การขาดทุนของคุณจะเพิ่มขึ้นเยอะ การใช้คำสั่ง Stop-Loss ก่อนเริ่มเทรดถือเป็นลักษณะหนึ่งของนักเทรดมืออาชีพ หลังจากวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาของสกุลเงินแล้ว นักเทรดมืออาชีพจะกำหนดจุดที่การเทรดจะถูกปิดไว้ล่วงหน้าในกรณีที่เกิดการขาดทุน

กฎข้อที่ 2: อย่าขาดทุนมากกว่า 5% ของบัญชีของคุณจากการเทรดครั้งเดียว

สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าจำนวนเงินที่คุณอาจขาดทุนในการเทรดจะต้องไม่เกิน 5% ของยอดเงินในบัญชีทั้งหมดของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินในบัญชี $10,000 และตัดสินใจที่จะเข้าสู่การเทรด คุณจะต้องคำนวณราคาที่คุณจะออกจากการเทรดเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่มากกว่า $500

สมมติว่าคุณซื้อ GBPUSD 1 ล็อตในราคา 1.2900 โดยคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในไม่ช้า ในสถานการณ์นี้ คุณจะต้องออกคำสั่ง Stop-Loss ที่ 1.2850 เพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นไว้ที่ $500 หรือ 5% ของยอดเงินในบัญชีของคุณ

อย่างไรก็ตาม หากคุณซื้อ 2 ล็อตและราคาถึง 1.2850 คุณจะขาดทุนเท่ากับ $1,000 หรือ 10% ของยอดเงินในบัญชีของคุณ ในกรณีนี้ คุณมีสองทางเลือก: ย้ายคำสั่ง Stop-Loss ให้ใกล้กับจุดที่เข้าเทรด (เช่น 1.2875) หรือซื้อเพียง 1 ล็อต

กฎข้อที่ 3: อย่าเทรดสวนทางกับแนวโน้ม

กฎสำคัญในการวิเคราะห์ตลาดการเงินคือการติดตามแนวโน้ม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุความสำเร็จ

เพื่อให้เป็นไปตามกฎนี้ อย่าเข้าสู่การเทรดโดยสวนทางกับแนวโน้มทั่วไปของการเคลื่อนไหวของราคา เป้าหมายของคุณคือการระบุทิศทางทั่วไปของการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ (เช่น สกุลเงิน) ตรวจสอบว่าราคามีแนวโน้มขึ้น ลง หรือคงตัวค่อนข้างคงที่ เมื่อคุณระบุแนวโน้มแล้ว ให้เข้าสู่การเทรดในทิศทางของมันเสมอ ไม่สวนทาง

เมื่อแนวโน้มราคาสูงขึ้น ให้เป็นผู้ซื้อสกุลเงิน เมื่อแนวโน้มราคาลดลง ให้เป็นผู้ขายสกุลเงิน การปฏิบัติตามกฎนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้การเทรดได้กำไรมากกว่าขาดทุน

หากแนวโน้มราคาเป็นไปในทิศทางแบบ Sideways อย่าเทรดสกุลเงิน – คุณไม่สามารถระบุได้ว่าแนวโน้มนั้นเป็นขาขึ้นหรือขาลง ให้รอจนกว่าทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาจะเริ่มขยับขึ้นหรือลงแทน แนวโน้มแบบ Sideways บ่งชี้ว่าตลาดมีความไม่แน่นอนและอุปทานเท่ากับอุปสงค์ สถานการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นไม่นาน และตลาดจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินในไม่ช้า

กฎข้อที่ 4: อาศัยการวิเคราะห์ ไม่ใช่อารมณ์ในการเข้าและออกจุดเทรด

ก่อนที่จะเริ่มการเทรดจริง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้วิธีการวิเคราะห์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วซึ่งทดสอบได้ในบัญชีทดลอง การเชื่อสัญชาตญาณของคุณจะส่งผลให้เกิดการขาดทุนครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าสัญชาตญาณนั้นจะถูกต้องในบางครั้งก็ตาม

นักเทรดมักจะตกเป็นเหยื่อของอิทธิพลทางจิตวิทยาก่อนและระหว่างเข้าสู่การเทรด อุปสรรคทางอารมณ์ที่โดดเด่นที่สุดที่นักเทรดเผชิญคือความกลัวและความโลภ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความสำเร็จในการเทรด

ความโลภอาจทำให้นักเทรดเลือกเทรดอย่างหุนหันพลันแล่น โดยไม่ได้ทำการลองตลาดอย่างมีสมเหตุสมผลก่อน และความกลัวสามารถขัดขวางนักเทรดไม่ให้เข้าสู่การเทรด แม้ว่าการวิเคราะห์กราฟจะชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจเข้าเทรดนั้นถูกต้องก็ตาม นอกจากนี้ ความกลัวว่าจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอาจทำให้นักเทรดปิดการเทรดก่อนเวลาอันควรและขาดทุน แม้ว่าการวิเคราะห์จะไม่ได้บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการออกก็ตาม

เมื่อการวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟยืนยันแนวโน้มและหากคุณพบว่าสกุลเงินจะสูงขึ้น ให้ทำการเข้าซื้อ และถ้าคุณพบว่าราคาจะตกลงก็ให้ทำการขายมันไป โดยไม่คำนึงถึง “ความรู้สึก” ของคุณ

เมื่อคุณอยู่ในการเทรดและตัวบ่งชี้แสดงว่าการเคลื่อนไหวของราคาเริ่มเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม ให้ออกทันที แม้ว่าคุณจะ “รู้สึก” ว่าราคาจะกลับมาในทิศทางที่มีกำไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอารมณ์ที่ขัดแย้งกัน ไม่ใช่รูปแบบหนึ่งของการรับรู้ถึงอนาคต

กฎข้อที่ 5: อย่าเทรดในเงื่อนไขและเวลาที่ไม่เหมาะสม

การวิเคราะห์กราฟต้องใช้เวลา ความพยายาม และความอดทนอย่างมาก หากคุณไม่พร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาสำหรับการเทรด ทางที่ดีที่สุดที่จะไม่ทำการเทรดในวันนั้น

อย่าเทรดเมื่อคุณป่วย หรืออยู่ในสภาพจิตใจที่ผิดปกติ เนื่องจากอาจนำคุณไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและเร่งรีบ

หากคุณปิดการเทรดที่ขาดทุน วิธีที่ดีที่สุดคือออกจากการเทรดสักสองสามชั่วโมงเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาสงบอารมณ์และจิตใจก่อน อย่าใช้แนวทาง “ฉันจะไม่ออกจากการเทรดวันนี้จนกว่าฉันจะได้สิ่งที่สูญเสียไป!” เนื่องจากอาจทำให้คุณเข้าสู่การเทรดอย่างเร่งรีบและหุนหันพลันแล่น

เมื่อคุณตระหนักว่าการขาดทุนในการเทรดเป็นเรื่องปกติที่ต้องชำระเป็นครั้งคราว มันจะช่วยให้คุณยอมรับการสูญเสียนี้ได้

วันนี้คุณขาดทุนแล้วหรือยัง? มันเป็นเรื่องธรรมดา; คุณสามารถชดเชยการขาดทุนนี้ได้ในวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไป การเทรดสกุลเงินและสินทรัพย์อื่นๆ เต็มไปด้วยโอกาส และสิ่งที่เราต้องการก็คือใช้ประโยชน์จากโอกาสเดียวเท่านั้น

ติดตามเราบนโซเชียลมีเดีย (เทเลแกรม, อินสตาแกรม, เฟสบุ๊ค) เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที