Majors VS Exotics: เลือกคู่สกุลเงินไหนดี?
ในฟอเร็กซ์ มีคู่สกุลเงินหลัก คู่รอง และคู่กลุ่มประเทศตลาดใหม่ ตัวเลือกระหว่างการเทรดคู่สกุลเงินหลักหรือคู่กลุ่มประเทศตลาดใหม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงรูปแบบการเทรดของคุณ การยอมรับความเสี่ยง และสภาวะตลาด ในบทความนี้ เราจะสำรวจคู่สกุลเงินหลักและคู่กลุ่มประเทศตลาดใหม่ควบคู่กันเพื่อให้คุณตัดสินใจว่าคู่สกุลเงินใดจะให้ผลกำไรสูงสุดแก่คุณ
คู่สกุลเงินหลัก
คู่สกุลเงินหลักคือคู่สกุลเงินที่มีการเทรดกันมากที่สุดและประกอบด้วยประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก โดยทั่วไปจะประกอบด้วยสกุลเงินต่างๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์อังกฤษ (GBP), เยนญี่ปุ่น (JPY), ฟรังก์สวิส (CHF), ดอลลาร์แคนาดา (CAD) และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
ประโยชน์ของการเทรดคู่สกุลเงินหลักได้แก่:
☑️ สภาพคล่อง. คู่สกุลเงินหลักมีปริมาณการซื้อขายสูง ส่งผลให้สภาพคล่องดีกว่า ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเข้าและออกจากการเทรดได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการคลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ
☑️ สเปรดแคบ เนื่องจากคู่สกุลเงินหลักมีสภาพคล่องสูง มักจะมีสเปรดที่แคบกว่า ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเทรด
☑️ เสถียรภาพตลาด โดยทั่วไปคู่สกุลเงินหลักจะมีความมั่นคงมากกว่าและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยพื้นฐาน ตลอดจนแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก
คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่
คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่จะเกี่ยวข้องกับสกุลเงินของประเทศเกิดใหม่หรือมีเศรษฐกิจขนาดเล็ก เช่น เปโซเม็กซิโก (MXN) แรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) ลีราตุรกี (TRY) หรือบาทไทย (THB)
ข้อควรพิจารณาในการเทรดคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ ได้แก่:
☑️ ความผันผวน คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มีแนวโน้มที่จะมีความผันผวนสูงกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลัก ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถให้โอกาสในการทำกำไรที่สูงขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
☑️ สภาพคล่องและสเปรด คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มักจะมีปริมาณการเทรดที่ต่ำกว่าและสเปรดที่กว้างกว่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการเทรดและเพิ่มต้นทุนการเทรด
☑️ ปัจจัยเฉพาะประเทศ คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ได้รับอิทธิพลมากกว่าจากเหตุการณ์เฉพาะประเทศ การพัฒนาทางการเมือง และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีลักษณะเฉพาะของประเทศเหล่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและตลาดเฉพาะที่เกี่ยวข้อง
จะเลือกคู่สกุลเงินไหนดี?
ท้ายที่สุดแล้ว ตัวเลือกจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเทรด ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสภาวะตลาดที่คุณพอใจ นักเทรดจำนวนมากเริ่มต้นด้วยคู่สกุลเงินหลักเนื่องจากสภาพคล่องและความมั่นคง ในขณะที่นักเทรดที่มีประสบการณ์มากกว่าอาจสำรวจคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่สูงขึ้น
สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษาอย่างละเอียด พิจารณากลยุทธ์การเทรดของคุณ และฝึกฝนในบัญชีทดลองเพื่อกำหนดคู่สกุลเงินที่สอดคล้องกับสไตล์การเทรดและวัตถุประสงค์ของคุณ
หากเราเปรียบเทียบการเทรดคู่สกุลเงินหลักกับคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ เราสามารถเน้นข้อดีและข้อเสียตามลำดับได้
Majors | Exotics | |
ข้อดี | สภาพคล่องสูงและเสถียรภาพของตลาด คู่สกุลเงินหลักมีสภาพคล่องสูงเนื่องจากความนิยมและมีปริมาณการเทรดที่สูง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเข้าและออกจากการเทรดในราคาที่ต้องการได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการคลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ คู่สกุลเงินหลักได้รับอิทธิพลจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและปัจจัยพื้นฐาน ทำให้คู่สกุลเงินหลักมีความเสถียรเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ | ความผันผวนสูงกว่า คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มักจะแสดงการแกว่งตัวของราคาและความผันผวนที่มากกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลัก ความผันผวนนี้สามารถให้โอกาสในการทำกำไรมากขึ้นได้หากคาดการณ์อย่างถูกต้อง |
สเปรดแคบ สภาพคล่องที่สูงของคู่สกุลเงินหลักมักจะนำไปสู่สเปรดราคา bid-ask ที่แคบ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเทรด และทำให้คุ้มค่ามากขึ้นสำหรับการเทรดเป็นประจำ | ศักยภาพสำหรับโอกาสพิเศษ คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์เฉพาะประเทศและปัจจัยทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถนำเสนอโอกาสในการเทรดที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญในภูมิภาคหรือสกุลเงินเฉพาะ | |
การวิเคราะห์ตลาดอย่างกว้างขวาง เนื่องจากความนิยมของคู่สกุลเงินหลัก จึงทำให้คู่สกุลเงินนี้ได้รับความคุ้มครองและการวิเคราะห์ที่สำคัญจากสถาบันการเงิน นักวิเคราะห์ และนักเทรด ซึ่งให้ข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจเทรดโดยมีข้อมูลครบถ้วน | ความอิ่มตัวของตลาดน้อยกว่า โดยทั่วไป คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่จะมีการเทรดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่หลัก ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีผู้คนหนาแน่นน้อยกว่า ช่วยให้ดำเนินการเทรดได้ดีขึ้นและอัตรากำไรที่กว้างขึ้น | |
ข้อเสีย | ความผันผวนต่ำกว่า คู่สกุลเงินหลักมีแนวโน้มที่จะมีความผันผวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ ซึ่งสามารถจำกัดโอกาสในการทำกำไรในระยะสั้นสำหรับนักเทรดที่ต้องพึ่งพาการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว | สภาพคล่องน้อยกว่า คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มักจะมีปริมาณการซื้อขายที่ต่ำกว่า ส่งผลให้สภาพคล่องน้อยกว่า ซึ่งสามารถนำไปสู่สเปรดที่กว้างขึ้น การคลาดเคลื่อนของราคา และความยากลำบากในการเข้าและออกจากการเทรดในราคาที่ต้องการ |
โอกาสในการเทรดที่จำกัด การเทรดคู่สกุลเงินหลักอาจส่งผลให้โอกาสในการเทรดมีช่วงแคบลง เนื่องจากจำนวนคู่สกุลเงินหลักนั้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่ | ต้นทุนการเทรดที่สูงกว่า เนื่องจากสภาพคล่องที่ลดลง สเปรดของคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่จึงอาจกว้างขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการเทรดเพิ่มขึ้น | |
ตลาดอิ่มตัวมากกว่า คู่สกุลเงินหลักที่มีความนิยมหมายความว่าตลาดสามารถมีการแข่งขันที่สูง ซึ่งอาจส่งผลให้อัตรากำไรแคบลง และเพิ่มความยากลำบากในการหาโอกาสในการเทรดที่ไม่เหมือนใคร | ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างกะทันหันและมีนัยสำคัญมากกว่า เนื่องจากเหตุการณ์เฉพาะประเทศ ความไม่มั่นคงทางการเมือง หรือปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถทำให้การเทรดคู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มีความท้าทายและอาจมีความเสี่ยงมากขึ้น |
โดยสรุปแล้ว คู่สกุลเงินหลักมีสภาพคล่องสูง สเปรดที่แคบ และเสถียรภาพของตลาด แต่มีความผันผวนต่ำกว่าและโอกาสในการเทรดที่ไม่เหมือนใครน้อยกว่า คู่สกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดใหม่มีความผันผวนและศักยภาพสูงกว่าสำหรับโอกาสพิเศษในการเทรด แต่มีสภาพคล่องต่ำกว่า สเปรดที่กว้างกว่า และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
ติดตามเราได้ที่ เทเลแกรม, อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที