DAX 30 คืออะไร?
DAX 30 หรือที่รู้จักกันในชื่อดัชนีตลาดหุ้นเยอรมัน คือกลุ่มของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 30 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ในเยอรมนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของเยอรมนี บริษัทเหล่านี้มาจากภาคส่วนต่างๆ เช่น อุตสาหกรรม การเงิน เทคโนโลยี และบริการ
คำนวณได้อย่างไร?
ดัชนี DAX 30 คำนวณโดย Deutsche Börse AG ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต
ดัชนีจะถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดรวมของบริษัทที่อยู่ในนั้น น้ำหนักของแต่ละบริษัทในดัชนีจะกำหนดโดยมูลค่าตลาดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดรวมของบริษัททั้ง 30 แห่ง นอกจากนี้ มูลค่าตลาดของแต่ละบริษัทจะถูกคำนวณโดยไม่คำนึงถึงหุ้นที่ถูกจำกัด บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดใหญ่กว่าจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของดัชนีมากกว่า
บริษัทที่มีมูลค่าตลาดอยู่ต่ำกว่า 45 อันดับแรกจะถูกลบออกจากดัชนี ในขณะที่บริษัทที่มีมูลค่าไม่เกิน 25 อันดับแรกจะได้รับการพิจารณาให้รวมไว้ด้วย
บริษัท 10 อันดับแรกในดัชนี DAX 30
ดัชนี DAX 30 ได้รับอิทธิพลจากผลการดำเนินงานของบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งที่รวมอยู่ในดัชนีนั้น บริษัทต่อไปนี้คือบริษัทที่โดดเด่นที่มีผลกระทบสำคัญต่อผลการดำเนินงานของดัชนี:
- SAP: บริษัทซอฟต์แวร์และผู้ให้บริการด้านไอที
- Volkswagen: บริษัทยานยนต์และการขนส่ง
- Bayer: บริษัทเคมีภัณฑ์และยา
- Siemens: บริษัทวิศวกรรมข้ามชาติ
- BMW: บริษัทยานยนต์
- Daimler: บริษัทผู้ผลิตยานยนต์และรถบรรทุก
- BASF: บริษัทเคมีภัณฑ์
- Adidas: บริษัทผลิตชุดกีฬาและอุปกรณ์การกีฬา
- Deutsche Bank: ธนาคารเพื่อการพาณิชย์และการลงทุน
- Allianz: บริษัทประกันภัยข้ามชาติ
จะเทรด Dax 30 ได้อย่างไร?
ใช้กราฟ สำหรับดัชนี DAX 30 เพื่อวิเคราะห์รูปแบบ แนวโน้ม และระดับแนวรับและแนวต้าน คุณสามารถใช้กราฟรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพการดำเนินงานในระยะสั้นและระยะยาว
ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), Linear Regression และ Moving Average Convergence Divergence (MACD) เพื่อระบุและยืนยันสัญญาณการซื้อและขาย
ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสำคัญและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของดัชนี DAX 30 และบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี การเคลื่อนไหวของตลาดมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับข่าวเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญ
รวมการวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ากับการวิเคราะห์พื้นฐาน เพื่อตัดสินใจเทรด ข่าวพื้นฐาน เช่น รายงานผลประกอบการและการพัฒนาเศรษฐกิจ สามารถมีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของดัชนีและบริษัทจดทะเบียนได้
ก่อนทำการเทรด ให้กำหนดกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของคุณ กำหนดระดับการเข้าและออก กำหนดคำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit และกำหนดจำนวนเงินทุนที่คุณยินดีเสี่ยง
ติดตามเราได้ที่ เทเลแกรม, อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที