CPI คืออะไร และเกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้ออย่างไร?
CPI ย่อมาจาก Consumer Price Index หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นมาตรการที่ใช้ในการกำหนดอัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจ ดัชนีนี้เปรียบเทียบราคาปัจจุบันของสินค้าและบริการที่จำเป็น เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย การขนส่ง และการรักษาพยาบาล กับราคาในช่วงเวลาก่อนหน้า
ทำไมเราต้องการ CPI?
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ CPI แสดงการเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายที่ผู้บริโภคต้องเผชิญ และให้ภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อ
รัฐบาลและธนาคารกลางใช้ CPI ในการตัดสินใจทางการเงินและเศรษฐกิจ (เช่น การควบคุมอัตราดอกเบี้ยและความเสี่ยงทางการเงิน) หาก CPI แสดงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ธนาคารกลางจะต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับมัน
นอกจากนี้ CPI ยังมีประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้มของผู้บริโภคและกำลังซื้อ ตลอดจนประเมินประสิทธิภาพของบริษัทในภาคผู้บริโภค สำนักงานสถิติแห่งชาติหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในการออกรายงานเศรษฐกิจจะต้องคำนวณ CPI เป็นประจำในประเทศส่วนใหญ่ โดยมักจะเผยแพร่เป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส
CPI และอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นวิธีวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อในระบบเศรษฐกิจหนึ่งๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อกำหนดอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจนั้นๆ
เมื่อ CPI สูงขึ้น หมายความว่าราคาสินค้าและบริการที่ผู้คนซื้อเพิ่มขึ้น สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในทางกลับกัน หาก CPI ลดลง หมายความว่าราคาสินค้าและบริการลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจลดลง
สรุปได้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อมีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรง พูดง่ายๆ คือ เมื่อ CPI เพิ่มสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อก็จะสูงตาม และเป็นเช่นนี้ในทางกลับกันเมื่อ CPI ลดต่ำลง อัตราเงินเฟ้อก็จะต่ำลงเช่นกัน ดังนั้น ดัชนีราคาผู้บริโภคจึงเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับการวัดอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ และใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นตัวชี้วัดหลักสำหรับอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศ
จะอ่านรายงาน CPI ได้อย่างไร
หากต้องการอ่านและทำความเข้าใจข่าว CPI คุณต้องเน้นที่องค์ประกอบหลัก ซึ่งได้แก่:
CPI สะท้อนให้เห็นถึงสถานะโดยรวมของเศรษฐกิจ CPI ได้รับอิทธิพลจากราคาสินค้าเกษตร ต้นทุนเชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าพื้นฐาน บริการทางการแพทย์ ประกันสุขภาพ และค่าเช่า ดังนั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงาน การใช้จ่ายของรัฐบาล และการเติบโตของอุตสาหกรรมจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถส่งผลกระทบต่อ CPI
อัตราเงินเฟ้อที่ประกาศโดยรายงาน CPI บ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยเฉลี่ยของราคาผู้บริโภค อัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้บ่งชี้ถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าการคาดการณ์หมายความถึงเสถียรภาพหรือการลดลงของราคาผู้บริโภค ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้น
ความคาดหวังของตลาด อาจส่งผลต่อการตอบสนองต่อรายงาน CPI หากผลลัพธ์เกินความคาดหมาย เป็นไปได้ที่หุ้นจะลดลงและสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำและพันธบัตรก็เพิ่มขึ้น
CPI สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ของราคาผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อตรวจสอบแนวโน้มของเศรษฐกิจและตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาดสำหรับอนาคต
ถึงกระนั้น รายงาน CPI กำหนดอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น สำหรับภาพรวม ควรพิจารณาข้อมูลอื่น: ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีค่าจ้าง ดัชนีราคาหุ้น และแม้แต่สกุลเงิน
ติดตามเราบนโซเชียลมีเดีย (เทเลแกรม, อินสตาแกรม, เฟสบุ๊ค) เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที