กลยุทธ์ Turtle Soup: วิธีการเทรดที่ดีสำหรับนักเทรดมือใหม่

Adam Lienhard
Adam
Lienhard
กลยุทธ์ Turtle Soup: วิธีการเทรดที่ดีสำหรับนักเทรดมือใหม่

กลุ่ม Turtle Traders เป็นกลุ่มคนที่ได้รับการฝึกฝนในช่วงทศวรรษ 1980 ในฐานะส่วนหนึ่งของการทดลองโดยนักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ Richard Dennis และ William Eckhardt การทดลองนี้มีจุดประสงค์เพื่อตัดสินข้อโต้แย้งระหว่างทั้งสองคนคือ Dennis เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถเรียนรู้และเทรดได้สำเร็จ ในขณะที่ Eckhardt เชื่อว่าความสำเร็จในการเทรดเป็นพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด พวกเขาคัดเลือก 23 คนธรรมดา ผ่านการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ และสอนให้พวกเขาใช้วิธีการเทรดเชิงระบบ (Systematic Trading) ผลการทดลองพิสูจน์ให้เห็นว่า ทฤษฎีของ Dennis เป็นจริง เพราะหลายคนในกลุ่มประสบความสำเร็จอย่างมากในการเทรด ที่มาของชื่อ Turtle Traders มาจากคำพูดของ Dennis ที่เปรียบเทียบการฝึกนักเทรดว่าเหมือนการเพาะเลี้ยงเต่าในสิงคโปร์

กลยุทธ์การเทรด Turtle Soup คืออะไร?

Turtle Soup เป็นการปรับปรุงกลยุทธ์โดย Linda Bradford Raschke นักเทรดชื่อดัง ที่พัฒนาขึ้นจากแนวทางของกลุ่ม Turtle Traders ดั้งเดิม โดยการพัฒนาดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การระบุและทำกำไรจาก False Breakouts ในตลาด

False Breakout เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญไปเพียงชั่วคราว ก่อนที่จะกลับตัวอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากการกลับตัวของราคา โดยการเข้าเทรดในจุดที่เหมาะสมทันทีหลัง False Breakout ได้รับการยืนยัน

คุณสามารถเทรดอะไรได้บ้างด้วยกลยุทธ์ Turtle Soup?

กลยุทธ์ Turtle Soup สามารถนำไปใช้กับคู่สกุลเงินใดก็ได้ในตลาดฟอเร็กซ์ โดยทั่วไป หลักการของกลยุทธ์มีความหลากหลายและสามารถนำไปใช้กับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้ โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดสกุลเงิน เนื่องจากมีการปั่นป่วนบ่อยครั้งและการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดขึ้นทุกวันตลอดเซสชันการเทรด

ใช้กับกรอบเวลาใดได้บ้าง?

แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ Turtle Soup บนกรอบเวลาไม่ต่ำกว่า M15 (กราฟ 15 นาที) หรือสูงกว่า เนื่องจากกลยุทธ์นี้อาศัยการระบุ False Breakouts ซึ่งมักจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในกรอบเวลาที่ยาวกว่า

กรอบเวลาที่เลือกจะมีผลเฉพาะกับจำนวนการเทรดที่คุณพบและจำนวนกำไรที่คุณอาจคาดหวัง โดยกรอบเวลาที่สูงกว่ามักให้โอกาสที่สำคัญมากกว่าแต่มีการเทรดน้อยกว่า

จะใช้กลยุทธ์ Turtle Soup ได้อย่างไร?

ในการใช้กลยุทธ์ Turtle Soup ให้เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์แท่งเทียน 20 แท่งล่าสุดบนกราฟที่คุณเลือกในช่วงการพักราคา (เมื่อราคาเคลื่อนไปในทิศทางไซด์เวย์) การกำหนดกรอบ 20 ช่วงนี้มีความสำคัญในการระบุระดับสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งจะถูกใช้ในการตั้งจุดเข้าและจุดออก

ขนาดของ Stop-Loss (SL), Take-Profit (TP) และ คำสั่งหยุดการขาดทุน (Stop Order) อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่คุณเลือกใช้ ตัวอย่างเช่น สำหรับกราฟรายวัน คุณควรใช้ช่วง 50 pip เป็น Stop-Loss ของคุณ สำหรับกราฟ M15 – ระยะห่างเพียง 3/5 pips

สำหรับสถานการณ์ ‘ซื้อ’:

  1. ระบุจุดสูงสุดและต่ำสุดจากแท่งเทียน 20 แท่งล่าสุด แล้วทำเครื่องหมายด้วยเส้นแนวนอน
  2. รอให้ราคาลดลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดของช่วง 20 แท่งนั้น
  3. วางคำสั่ง ‘Buy Stop’ ไว้ที่ 5-10 pips เหนือระดับต่ำสุดนั้น (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำสั่งนี้ใช้ได้เฉพาะกับแท่งเทียนปัจจุบันบนกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า)
  4. ตั้ง SL ไว้ที่ 5-15 pips ต่ำกว่าระดับราคาต่ำสุดปัจจุบัน
  5. ตั้ง TP ไว้ที่ 5-10 pips ต่ำกว่าขอบบนของช่วงราคาจากแท่งเทียน 20 แท่งนั้น

สำหรับสถานการณ์ ‘ขาย’:

  1. ระบุจุดสูงสุดและต่ำสุดจากแท่งเทียน 20 แท่งล่าสุด
  2. รอให้ราคาทะลุเหนือระดับสูงสุดของช่วงนั้น
  3. วางคำสั่ง Sell Stop ไว้ที่ 5-10 pips ต่ำกว่าระดับสูงสุดของช่วง 20 แท่งเทียน (คำสั่งนี้ใช้ได้เฉพาะกับแท่งเทียนปัจจุบันบนกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า)
  4. ตั้ง SL ไว้ที่ 5-15 pips เหนือระดับราคาสูงสุดปัจจุบัน
  5. ตั้ง TP ไว้ที่ 5-10 pips เหนือขอบล่างของช่วงราคาจากแท่งเทียน 20 แท่งนั้น

รูปแบบที่แตกต่าง

นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า Turtle Soup + One ซึ่งช่วยให้สามารถเปิดตำแหน่งได้หลังจากแท่งเทียนที่ทะลุกรอบปิดตัวลงนอกช่วงราคานั้น วิธีนี้อาจเป็นจุดเข้าเทรดที่ปลอดภัยกว่าสำหรับนักเทรดที่ต้องการความระมัดระวังมากขึ้น

ตัวอย่างจริง

มาดูกราฟ EURUSD D1 กัน การพักราคาครั้งแรกที่สำคัญปรากฏในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม 2020 (สามารถระบุได้ด้วยรูปแบบ CHOCH)

เมื่อเรานับครบ 20 แท่งเทียน เราจะวาดกล่องที่รวมแท่งเทียนทั้งหมด ขอบบนและล่างของกล่องจะแสดงระดับสูงสุดและระดับต่ำสุดของช่วงนั้น

หลังจากรอช่วงหนึ่ง ราคาได้ทะลุกรอบไปทางด้านบน ตามกลยุทธ์ เราจะวางคำสั่ง ‘Sell Stop’ ทันทีที่ 50 pips ใต้ระดับสูงสุดและตั้ง SL ไว้ 50 pips เหนือระดับสูงสุด จากนั้นตั้ง TP ไว้ 50 pips เหนือระดับต่ำสุด ผลการเทรดในครั้งนี้ทำกำไรได้สำเร็จ

หลังจากราคาปรับตัวลงตามแนวโน้มขาลงซึ่งจับ TP ของเราได้สำเร็จ ก็มีการพักราคาเกิดขึ้นอีกครั้ง

หลังจากที่เราทำเครื่องหมายกล่อง 20 ช่วงตามวิธีเดิม ให้รอราคาแสดงสัญญาณบางอย่าง การ False Breakout จะเกิดขึ้นที่ขอบบน และเราจะวางคำสั่ง ‘Sell Stop’ อีกครั้งที่ 5 pips ใต้ขอบบน และวาง SL เหนือขอบบน สำหรับ TP เราตั้งไว้ 50 pips เหนือขอบล่าง เราก็จะทำกำไรได้อีกครั้ง

ไม่นานหลังจากนั้น ราคาได้กลับตัวจาก การ False Breakout ที่ระดับต่ำสุด คราวนี้เรามองหาโอกาสในการซื้อลอง โดยวาง SL ไว้ 50 pips ใต้ระดับต่ำสุดและตั้ง TP ไว้ 50 pips ใต้ระดับสูงสุดเดิม นอกจากนี้ เรายังวางคำสั่ง ‘Buy Stop’ ไว้ 50 pips เหนือระดับต่ำสุดเพื่อเปิดตำแหน่ง

และอีกครั้ง เราก็ทำกำไรได้สำเร็จ!

กราฟ EURUSD D1

มาดูกันว่ากลยุทธ์นี้ทำงานอย่างไรบนกราฟ EURUSD M15 ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง

ในช่วงเย็นของวันที่ 30 สิงหาคม 2024 เราพบช่วงการพักราคา จึงวาดกล่องที่ครอบคลุมแท่งเทียน 20 แท่ง หลังจากเกิดการ Fake Breakout เรา0tวางคำสั่ง ‘Buy Stop’ ไว้ 4 pips เหนือขอบล่าง โดยตั้ง TP และ SL ไว้ใต้ระดับต่ำสุดและสูงสุดตามลำดับ ตำแหน่งนี้ปิดตัวลงพร้อมทำกำไรได้ หลังจากเกิดความผันผวนเพิ่มเติมเล็กน้อย

เมื่อสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้นสั้นๆ ที่ตามมา ให้เราวาดกล่องอีกครั้ง เมื่อราคาเข้าสู่ช่วงการพักราคาอย่างชัดเจน ในกรณีนี้ หลังจากเกิดการ Fake Breakout เราตั้งระยะห่าง 4 pips สำหรับ SL, TP และคำสั่ง ‘Sell Stop’ เช่นเดิม และตำแหน่งนี้ก็เพิ่มกำไรให้กับพอร์ตของเราอีกครั้ง

สุดท้าย เรามีโอกาสเปิดตำแหน่งขายช้อตที่มีกำไรอีกครั้ง หลังจากช่วงการพักราคาที่ผันผวนในวันที่ 4 กันยายน

(กราฟ EURUSD M15)

โดยรวมแล้ว ดังที่แสดงไว้ในตัวอย่างข้างต้น อัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทนจะดีกว่าในกรอบเวลาที่สูงกว่า เช่น รายวัน ในทางกลับกัน กราฟที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่า เช่น กราฟแบบ 15 นาที ให้ความเป็นไปได้ในการเทรดมากขึ้นและใช้เวลาไม่นานในการเข้าออก

หากคุณชอบกลยุทธ์นี้ ลองใช้เลยตอนนี้บนแพลตฟอร์ม MetaTrader ของเรา!

ติดตามเราได้ที่ เทเลแกรม, อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที